คดีลักทรัพย์

ความผิดในคดีลักทรัพย์ เป็นความผิด ทางคดีอาญา ข้อสำคัญคือผู้กระทำความผิดต้องมีเจตนาทุจริต จงใจ เช่นจงใจหยิบร่มของเพื่อนเพื่อเอาไปเป็นของตัวเอง แบบนี้จึงเป็นความผิดลักทรัพย์แต่หากว่าเพียงแค่เข้าใจผิดคิดว่าร่มนั้นเป็นของตนเอง (แต่ความจริงเป็นของคนอื่น) แบบนี้ถือว่าไม่ได้มีเจตนาทุจริต หรืออีกอย่างคือเจตนาหยิบร่มของเพื่อนแต่ไม่ได้เอามาเป็นของตนเองแต่เอาไปใช้ชั่วคราวแล้วก็นำมาคืน แบบนี้ก็ไม่ครบองค์ประกอบความผิดในข้อหาลักทรัพย์


ดังนั้นการที่จะวินิจฉัยว่าผู้ใดกระทำความผิดอาญาในข้อหาคดีลักทรัพย์หรือไม่จึงจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนมิเช่นนั้นมันก็จะฟ้องไปไม่เกิดประโยชน์ การฟ้องคดีโดยที่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ครบองค์ประกอบฟ้องไปก็ไม่เป็นผลเมื่อถึงเวลาที่ ศาลท่านดำเนินการสืบพยานและพิพากษาความผิดนั้น มันก็ไม่สามารถลงโทษจำเลยผู้กระทำความผิดได้อยู่ดีนั่นเอง


ทรัพย์ที่ลักขโมยไปนั้นไม่ว่าจะเป็นจำนวนมากหรือจำนวนน้อยก็ถือว่าเป็นความผิดในข้อหาลักทรัพย์ทั้งสิ้น เอากันง่ายๆก็คือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวน แต่หากว่าเป็นการลักทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าเพียงเล็กน้อยและตัวผู้กระทำความผิดมีความจำเป็นต้องทำ เช่น ลักขโมยนมกล่อง UHT ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 15 บาท เพื่อนำไปให้ลูกกิน แบบนี้เมื่อศาลลงโทษตอนที่พิพากษาก็อาจจะ ลงโทษเบากว่าการลักขโมยรถยนต์ 1 คันซึ่งเป็นขโมยมืออาชีพก็ได้ เพราะบทลงโทษมันเป็นพิกัดกว้างซึ่งให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการลงโทษได้

ความผิดทางคดีอาญาฐานนี้ ต้องมีการประกันตัวเหมือนกับ คดีเช็ค หรือ คดียักยอก หรือคดีอาญาอื่น

ติดต่อ ประกันอิสรภาพ คดีลักทรัพย์

คดีเช็ค

ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องตั๋วเงินหรือเรื่องเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534  ถือว่าเป็นคดีอาญา โดยมูลหนี้ต้องเป็นมูลหนี้ที่มีอยู่จริงและสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย ก็คือถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง หากเป็นมูลหนี้ที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถฟ้องเป็นคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับเช็คได้ ดังนั้นก่อนจะที่ทำการยื่นฟ้อง จึงต้องตรวจสอบให้ชัดแจ้งเสียก่อนว่ามันเข้าองค์ประกอบความผิดนี้หรือไม่ โดยในการฟ้องคดีเช็คในคดีอาญานี้ หากตัวจำเลยมีความผิดจริงศาลอาจพิพากษาลงโทษจำคุกได้เป็นกรรมไป

แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดเกี่ยวกับเช็คนี้เป็นความผิดอาญาอันยอมความกันได้นั่นหมายความว่าหากคู่กรณีตกลงกัน ก็สามารถทำได้ เช่น ตัวจำเลย ตกลงว่าจะใช้หนี้ให้แก่โจทก์ เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ภายในกี่วัน กี่งวด เมื่อโจทก์ได้รับเงินจำนวนครบถ้วนแล้วก็มาถอนฟ้องคดีอาญานี้ ก็เป็นอันระงับไป


นั่นคือทางแก้ไขที่ดีที่สุด เมื่อตัวจำเลยทำความเดือดร้อนให้กับโจทก์ ก็ควรที่จะเจรจาต่อรอง เพื่อใช้หนี้เขาไปก็แค่นั้น แค่นี้หัวอกของโจทก์ก็ดีใจแล้วเพราะเขาก็อยากได้เงินของเขาคืนไม่ได้อยากให้ตัวจำเลยติดคุก


ส่วนคดีเช็คในการฟ้องทางคดีแพ่งนั้นก็สามารถทำได้ แต่ไม่ค่อยนิยมทำกันเพราะไม่มีบทลงโทษจำคุก แก่ตัวจำเลย ผู้กระทำความผิด อันจะทำให้การดำเนินการทางคดีไม่ค่อยทันใจหรือเฉียบขาด จำเลยไม่ค่อยเกรงกลัวนั่นเอง

ความผิดในฐานนี้ก็เป็นความผิดทางคดีอาญาฐานนึ่ง เหมือนกับ คดีลักทรัพย์นั่นเอง

ประกันอิสรภาพ คดีเช็ค สามารถตรวจสอบได้

เท่าที่ประเมินผู้ต้องหาล้นคุกแน่

เท่าที่ประเมินผู้ต้องหาล้นคุกแน่ เหตุใดจึงบอกเช่นนั้นเพราะว่าจากการดำเนินการเช่าหลักทรัพย์ประกันตัวหรือการให้บริการเกี่ยวกับการประกันตัวและเรื่องเกี่ยวกับเช่าหลักทรัพย์นี้ช่วงนี้โดยเฉลี่ยทั่วไปลูกค้าบางท่านไม่มีเงินในการเช่าหลักทรัพย์จึงถึงขั้นยอมติดคุกก็มีหรือบางคนก็หนีหมายจับไม่มาดำเนินคดีตามขั้นตอนกระบวนการของศาลก็มีให้เห็นอยู่เป็นระยะ จริงอยู่การใช้หลักทรัพย์นั้นต้องใช้เงินหรือใช้หลักทรัพย์เป็นจำนวนมากขนาดว่ามาเช่าเขาเงินที่มาเช่ายังมีแทบไม่พอในเมื่อมันสุดๆเหลือถึงที่สุดแล้วก็ต้องยอมติดคุกกันไปข้างหนึ่งหรือบางคนก็หนีไปเลยแล้วแต่เท่าที่เจอมานะก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปดีโดยเฉพาะในกลุ่มนั้นเท่าที่ทราบมามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเป็น จำนวนมากที่ผู้ต้องขังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนี้อันแสดงถึงปัญหาที่หนักหนาสาหัสที่กัดกร่อนสังคมไทยอยู่เป็นเวลานาน


การเช่าหลักทรัพย์ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะเป็นแค่กระบวนการปลายน้ำสิ่งที่เป็นเรื่องต้นน้ำนั่นคือไม่ควรที่จะมีคดีเกิดขึ้นมานั่นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเมื่อไม่มีคดี ท่านก็ไม่ต้องมาประกันตัวหรือดำเนินการอะไรกับทางเรา จริงอยู่ เราอาจไม่มีรายได้แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

แต่ละคดี หลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัวมันไม่เท่ากันเลย สอบถามเราได้ว่า เช่าหลักทรัพย์ประกันตัว ร้อยละเท่าไหร่


http://ประกันตัวผู้ต้องหา.blogspot.com/p/bailrentassets.html

ในบางคดีนั้นประกันไม่ใช่ง่าย

ท่านเคยทราบหรือไม่ว่าในบางคดีนั้นการประกันไม่ใช่ง่ายเพราะว่า เป็นคดีซึ่งมีโทษฉกรรจ์ เช่น คดียาเสพติดปริมาณมาก เช่น ยาบ้าพันเม็ด หรือยาไอซ์  20 กรัม ในคดีที่มีอัตราโทษหนักแบบนี้และมีความสำคัญ ศาลท่านอาจจะไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว เพราะว่ากลัวว่าผู้ต้องหาเองจะหลบหนี ซึ่งมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด อีกทั้งในการตามจับตัวผู้ต้องหามากว่าจะได้ตัวมานั้นไม่ใช่ง่ายต้องสิ้นเปลือง ทรัพยากรบุคลากรจำนวนมาก คดีที่โทษร้ายแรงเราเองก็ไม่สามารถที่จะซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพได้อีกด้วย เพราะว่าเขาก็มีข้อจำกัดในการรับคดีของเขา อย่างไรเสียที่จะทราบว่าคดีไหนอะไรรับหรือไม่อย่างไร ให้โทรไปสอบถามกันก่อนที่จะใช้งานจริง เพราะว่าต้องใช้เวลาเตรียมการ คดีบางประเภทใช้เวลานานกรมธรรม์ก็อาจจะไม่รับก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่และความผิดชอบของผู้ใช้บริการจะต้องโทรสอบถามตรวจสอบก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงวันจริงผู้ต้องหาหรือจำเลยจะต้องติดคุกซึ่งมันไม่คุ้ม หรือถ้าประกันไม่ได้เลยก็จะได้วางแผน แก้ปัญหากันต่อไป
ประกันอิสรภาพ คดีอาญา ได้ที่นี่
ด้วยความปรารถนาดีขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ ในการประกันตัวไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรก็ตาม

หลักทรัพย์ที่ใช้ในแต่ละคดีทำไมไม่เท่ากัน

แปลกใจมั้ยว่าทำไมหลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัวในแต่ละคดีจึงไม่เท่ากัน เราจะบอกว่าเขาดูจากความร้ายแรงแห่งคดี คดีที่มีบทลงโทษรุนแรงเช่นติดคุกหรือประหารชีวิต หลักทรัพย์ที่ใช้จะมีมูลค่าสูง หรือคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นคดีที่หน่วยงานราชการให้ความสำคัญและเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อมั่นคงของประเทศชาติแบบนี้อัตราหลักทรัพย์ที่ใช้จะมีมูลค่าสูง แต่ถ้าคดีที่เป็นอาญาความผิดต่อส่วนตัวเช่นคดี
หมิ่นประมาท แบบนี้หลักทรัพย์ที่ใช้ไม่แพงมาก คดีบางประเภทจะคำนวณจากมูลค่าความเสียหายด้วยเช่นพระราชบัญญัติความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ 2534  อัตราหลักทรัพย์ที่ใช้จะประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าความเสียหาย แบบนี้เป็นต้น

แต่ใดๆก็แล้วแต่ ท่านดำเนินคดีที่ศาลไหน ก็สอบถามที่ศาลนั้นอีกครั้งก่อนที่จะประกันตัวดีที่สุดเพราะว่า เจ้าของคดีจะเป็นผู้รู้ดีที่สุดและเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์กี่บาทอย่างไรกันบ้างมีเงื่อนไขอย่างไร โดยเฉพาะบางท่านซึ่งมีประวัติคดีคือ เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วและมากระทำความผิดซ้ำอีกครั้งแบบนี้ เงื่อนไขย่อมแตกต่างออกไป บางอย่างก็อยู่ในดุลพินิจของศาล ถามศาลดีที่สุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัว ใช้อะไรได้บ้าง ลองดูที่นี่ เช่าหลักทรัพย์ประกันตัว ผู้ต้องหา ทีใช้ได้แก่ 1.เงินสด 2.โฉนดที่ดิน 3.พันธบัตรรัฐบาล 4.ตำแหน่งค้ำประกัน 5.กรมธรรม์ประกันอิสรภาพ เหล่านี้เป็นต้น

รับประกันตัวให้กับผู้ต้องหาคดีเช็ค

มีคดีเช็คเด้งเข้ามาให้รับประกันตัวผู้ต้องหา มูลค่าสี่แสนบาท ประกันในชั้นศาล ความว่านายบี(สมมติชื่อ)จำเลย ได้จ่ายเงินเป็นเช็คให้กับนายเอฟ เป็นเงินสี่แสนบาท ลงวันที่ 25 มีนาคม 2555 เมื่อวันที่ 25 นายเอฟไม่ว่าง จึงนำเช็คไปขึ้นเงินในวันที่ 27 มีนาคม ผลไม่สามารถขึ้นเช็คได้(เช็คเด้ง) นายบีจึงถูกนายเอฟฟ้องตกเป็นจำเลย เมื่อไปถึงศาล พบนายเอฟ ผู้เสียหาย ซึ่งประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ได้พูดคุยกัน บอกว่าช่วงนี้ มีคดีเช็คให้มาทำงานจำนวนมาก ต้องระมัดระวัง เกิดปัญหาแล้วกว่าจะตามเงินจากคู่กรณีได้ เสียเวลามาก พอดีญาตินายบี เข้ามาจึงได้พูดคุยกัน ได้ความว่าในวันที่ 25 มีนาคม มีเงินในบัญชี ห้าแสนบาท ซึ่งเพียงพอจ่ายเช็คใบนี้ แต่ในวันที่ 26 นายบีมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน จึงได้ถอนเงินออกไป สี่แสนบาท ทางกฎหมายไม่น่าจะผิดไม่ต้องตกเป็นจำเลย  เพราะวันที่สั่งจ่ายระบุตามหน้าเช็ค เงินในบัญชีมีพอจ่าย ถ้านายเอฟ นำเช็คไปขึ้นเงินตามวันที่ระบุ ย่อมไม่มีปัญหาแต่ประการใด แต่อย่างไรเพื่อความแน่ใจ นายประกันเตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกัน นายบี เอาไว้ก่อน ส่วนผิดไม่ผิด ต้องให้ศาลท่านเป็นผู้ตัดสิน บางเรื่องมันก็มีความแปลกๆอยู่ฉะนี้ ตรงนี้ขอให้เข้าใจว่าๆไม่ว่าอะไรก็ตามหากได้ตกเป็นจำเลยแล้ว จะต้องมีการรับประกันตัวเกิดขึ้น ส่วนจะถูกผิดอย่างไรต้องรอกระบวนการตัดสินคำพิพากษาจากศาล ซึ่งจะใช้ระยะเวลาอยู่พอสมควร ช่วงนี้ไม่ต้องทุกข์กังวลใจจนไม่เป็นอันทำมาหากิน ปล่อยให้เป็นขั้นตอนไปตามกระบวนการของศาล เมื่อถึงเวลาศาลตัดสินพิพากษา หากว่าเรานั้นไม่พอใจผลการตัดสิน เราสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งในศาลชั้นถัดไปได้คือศาลอุทธรณ์ และต้องมีการประกันเกิดขึ้นด้วยตามขั้นตอนของศาลชั้นต้น ลูกค้าบางท่าน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่ามีความผิด แต่ศาลถัดไปกับยกฟ้อง ก็มีให้เห็น ตั้งอยู่บ่อยบ่อย อันนี้ขอแนะนำไว้ในเบื้องต้นแค่เพียงเท่านี้ก่อน

ในการรับประกันตัวผู้ต้องหานั้นมีสองช่วงคือ การประกันในชั้นพนักงานสอบสวน และ การประกันชั้นศาล โดยสามารถดูอัตราค่าหลักทรัพย์ประกันได้คร่าวๆ ที่นี่ เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้น  ว่าท่านนั้นหนึ่งซึ่งต้องเตรียมเงินมากี่บาทกี่สตางค์  แต่ในขั้นตอน  การทำงานจริงๆ  ต้องตรวจสอบตัวเลข ชัดเจนแน่นอนอีกครั้ง  เพื่อผลประโยชน์ของท่านเอง

คนใจโหดร้าย หวังเพียงแค่เงินประกันชีวิตเท่านั้น

คนเราสมัยนี้จิตใจเหี้ยมโหดโหดร้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ ดูข่าวในหนังสือพิมพ์ซึ่งกำลังดังในตอนนี้ ข่าว 2 สามีภรรยาคนไทยฆ่าชาวญี่ปุ่นอำพรางคดี เพื่อหวังเงินประกันชีวิต ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดกันได้ เท่าที่ติดตามข่าวมา ผู้ต้องหาผู้ดีเคยกระทำการแบบนี้กับสามีคนก่อนมาแล้วด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่เลวหลายอย่างมาก สมควรให้อภัย ฆ่าคนเพื่อได้เงิน ได้ดูข่าวเห็นบอกว่าบ้านช่อง ที่ผู้หญิงคนนี้มีมูลค่าเป็น 10 ล้านบาทกันเลยทีเดียวฐานะไม่ได้ยากจนแต่ประการใด อยู่สุขสบายมากกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่คนผู้ที่ขาดคือจริยธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในหัวใจของตนเอง สิ่งเหล่านี้ต่างหาก คดีนี้เป็นคดีดัง การดำเนินการทำงานย่อมไม่ง่าย จะมีใครมีหลักทรัพย์เพื่อมาให้บริการเช่า หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ รวมถึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไต่ตรองเอาไว้ก่อน จะคิดว่าบทลงโทษจะเบาหรือ ไม่มีทางแน่นอนของบอกเอาไว้ล่วงหน้าเลย ดังนั้นเมื่อมีการประกันเกิดขึ้น คิดหรือว่าตัวผู้ต้องหาจะอยู่รับลงโทษทางกฎหมาย คิดแล้วก็เศร้าเพราะว่า ช่วงนี้ข่าวเกี่ยวกับประเทศไทยไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ มีต่างชาติมาเสียชีวิต ในประเทศไทยเหตุอันไม่ควรหลายรายแล้วนะ เห็นใจใจอยู่เหมือนกัน

หากชีวิตนี้ไม่มองแต่เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่  เป็นเพียงเรื่องเดียวจนขาดความสมดุลย์ไม่สนใจเรื่องอื่นๆได้เลย ชีวิตมักจะมีแต่ความทุกข์ ชีวิตบางครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนที่มีเงินทองร่ำรวยมากมายก็ตาม แต่ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข หากรู้จักคำว่าศิลปะแห่งการใช้ชีวิต ผู้คนสมัยนี้ชอบแข่งกัน อวดกัน โชว์ว่าตัวเองรวย มีรถราคาแพงแพงขับ มีบ้านหลังสิบล้าน ยี่สิบล้านว่ากันไป ไง มองแต่เงินจนไม่สนใจผิดชอบชั่วดี สุดท้ายมันมีความสุขตรงไหน ไม่เข้าใจเหมือนกัน เป็นผู้ต้องหาหลายคนที่ได้ไปประกันมาก็ ผิดพลาดเนื่องจาก มอง แต่เงินเป็นใหญ่ จนบางครั้งไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมาจากการกระทำนั้น สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่เหลืออะไรเลย

คดีแต่ละคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นบางคดีก็มีความซับซ้อน ซ่อนเงื่อนรวมถึงมีความยากลำบากในการพิสูจน์หาคนผิดเพื่อมาดำเนินการลงโทษ คดีมักมีการวางแผน การดำเนินการกันอย่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนมีตัวละครหลายตัวมีการนำพาความผิดรวมถึงมีการสร้างหลักฐานเท็จหลักฐานหลอกต่างๆเป็นจำนวนมาก การกระทำซึ่งมีการวางแผนอย่างดี นี่แล้วย่อมสร้างความปวดหัวให้กับผู้ดำเนินการทางด้านสืบสวนสอบสวน หรือหาข้อมูลเพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นอย่างมาก แต่ในบางคดีก็มีหลักฐานชัดเจน ไม่ค่อยมีความซับซ้อนหรือยุ่งยากสักเท่าใด แต่ในการดำเนินการต่างๆนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย การที่ผู้กระทำผิดจะมีความผิดทางอาญาได้นั้นต้องมีความผิดอย่างชัดแจ้ง หากสงสัยให้ยกผลประโยชน์นั้นแก่จำเลย (ก็คือไม่สามารถลงโทษได้นั่นเอง)  การลงโทษความผิดทางอาญานั้นมิใช่เป็นไปได้โดยง่ายอย่างมีเหตุอื่นอีก เช่น เหตุยกเว้นโทษเนื่องจาก สาเหตุต่างๆ เช่น กระทำการโดยป้องกัน หรือว่า ผู้กระทำความผิดอายุไม่ถึง 15 ปี

เช่าหลักทรัพย์ประกันตัว ร้อยละเท่าไหร่ สอบถามได้ที่นี่

ประกันคดีพรากผู้เยาว์

ได้ไปทำงานประกันผู้ต้องหา คดีพรากผู้เยาว์(อายุน้อยกว่า 18 ปี) ผู้ชาย(สมมติชื่อนายดี) ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ไปมีอะไรกับเด็กอายุ 17 ปี โดยทั้งสองคนนี้คบหากันมาตามปกติ แต่เมื่อมีอะไรกับเด็ก แม่ของเด็กจะเอาเรื่องให้ได้ ยังไงๆก็ไม่ยอมจนต้องประกัน แต่เท่าที่ทราบมา เด็กคนนี้เคยมีแฟนมาแล้วอยู่ในวงการประกันและมีอะไรมากันแล้วด้วย (ก่อนนายดี) นายดีไม่ใช่คนแรก ของเด็กคนนี้ แต่ในแง่มุมทางกฎหมาย เค้าจะมองที่อายุของเด็กเป็นหลัก แต่คดีแบบนี้มักพูดยาก บางคู่รักกันจริงๆ ยับยั้งใจกันไม่ไหว วัยรุ่นเลือดมันร้อน อยู่ใกล้กันเป็นไม่ได้ จะเผลอเจาะกันอยู่เรื่อย แต่บางคู่ เป็นแค่ผู้ใหญ่หลอกฟันเด็กเท่านั้น อย่างงี้สมควรเอาเรื่องตัว ให้ได้ ตามปกติกฎหมายจะคุ้มครองเด็กมากกว่า เพราะถือว่ายังอ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพวกผู้ใหญ่ แต่สำหรับคดีนี้พ่อแม่เด็กไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ได้ มีการแจ้งข้อหาแก่นายดี ผู้ต้องหา เราจึงประกันนายดี ดังข้างต้น งานนี้ผู้ใหญ่เสียเงิน คราวหลังอย่าให้ความอยากบังตา รู้ว่ามันทำยาก แต่ใครระงับจิตใจได้ รับรองจะมองเห็นอะไรอีกเยอะเลย และประหยัดเงินทองค่ารับประกันตัว อีกด้วย โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับผู้เยาว์ อัตราวงเงินที่ใช้นั้นไม่ใช่เป็นเงินน้อยๆ นายประกันเองทราบดี หลายคนเสียเงินทั้งให้ญาติผู้เสียหายฝ่ายหญิง แต่คดียังไม่สิ้นสุด

ยิ่งในตอนนี้ ได้มีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้มีความรุนแรงและมีบทลงโทษรุนแรงมากยิ่งขึ้น หวังว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมหรือช่วยลดคดี เกี่ยวกับพรากผู้เยาว์ หรือเกี่ยวกับเด็กลงได้ เด็กน้อยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันมากขึ้น เพราะว่ามีเด็กตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเพศเยอะมาก

การกระทำความผิด กับเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี น้อยกว่า จำเลยหรือผู้ต้องหา จำเลยหรือผู้ต้องหา จะอ้างว่าไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่มีเจตนา ในการกระทำความผิด ต่อเด็กนั้นไม่ได้ (มีเจตนาหรือไม่มีเจตนา ในการกระทำความผิด ท่านก็ต้องได้รับบทลงโทษตามที่กฎหมาย บัญญัติไว้ ) กฎหมายนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองเด็กโดยเฉพาะ  ทำให้เฒ่าหัวงูทั้งหลายที่จะคิดกระทำการใดใดต่อเด็กเยาวชนต้องมีการคิดให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเพราะบทลงโทษค่อนข้างรุนแรงและแทบจะไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอีกด้วย

เรื่องเกี่ยวกับผู้เยาว์นี้กฏหมายมุ่งคุ้มครองความบริสุทธิ์ในทางเพศของผู้เยาว์นั่นเอง ถือว่ายังไม่ถึงวัยที่จะต้องยุ่งกับเรื่องเหล่านี้ หากการกระทำความผิดนี้เป็นการทำให้ ผู้เยาว์นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ตัวผู้กระทำความผิด จะต้องได้รับบทฉกรรจ์คือ ได้รับบทลงโทษหนักยิ่งขึ้น ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ท่านคิดดูละกันว่าคุ้มกันหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะมี เช่าหลักทรัพย์ประกันตัว ราคา แต่ว่า ถ้าเป็นคดีอุกฉกรรจ์อาจจะไม่ได้รับประกันตัวก็ได้ คิดให้ดีก่อนทำ

____________________________________________________________

ตัวอย่างฐานความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา	ฐานความผิด
1. มาตรา 282	วรรค4 รับตัวผู้ถูกพาไปโดยยินยอม
2. มาตรา 283	เป็นธุระจัดหาบุคคลอายุกว่า 18 ปีเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นโดยผู้นั้นไม่ยินยอม
3. มาตรา 284	พาบุคคลไปเพื่อการอนาจารโดยผู้นั้นไม่ยินยอม
4. มาตรา 277 ตรี	ชำเราหญิงเด็กหญิงกรณีพิเศษ
5. มาตรา 283 ทวิ วรรค3	ซ่อนเร้นผู้ถูกพาไปเพื่อการอนาจาร
6. มาตรา 287(3)	โฆษณาแหล่งของสิ่งลามก